วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2562

ฟินแลนด์การศึกษาที่ดีที่สุดในโลก | 28 เม.ย. 62 | อ่านข่าวการศึกษา



ฟินแลนด์การศึกษาที่ดีที่สุดในโลก | 28 เม.ย. 62 | อ่านข่าวการศึกษา

การศึกษาฟินแลนด์ที่มีผลสัมฤทธิ์สูงที่สุดในโลกด้วยการขอให้เด็กนักเรียนใช้เวลาที่โรงเรียนน้อยลงและให้ทำการบ้านและสอบน้อยลง

จากข้อมูลโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment) หรือ PISA ระบุว่า เด็กนักเรียนในฟินแลนด์มีผลการเรียนในวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และการอ่าน โดยเฉลี่ยดีกว่าเด็กจากประเทศที่พัฒนาแล้วในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD)

Organisation for Economic Co-operation and Development  องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ  เป็นองค์กรระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว และยอมรับระบอบประชาธิปไตยและเศรษฐกิจการค้าเสรีในการร่วมกันและพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคยุโรปและโลก โดยมีสมาชิกประเทศยุโรปตะวันตกจำนวน 19 ประเทศ เป็นผู้ลงนาม ได้แก่ ออสเตรีย,เบลเยี่ยม, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส, กรีซ, ไอซ์แลนด์,ไอร์แลนด์,อิตาลี, ลักเซมเบิร์ก, นอร์เวย์,เนเธอร์แลนด์ ,โปรตุเกส,อังกฤษ,สวีเดน,สวิตเซอร์แลนด์,ตุรกี,สหรัฐอเมริกา,เยอรมนีตะวันตกและแคว้นอิสระของตรีเอสเต

ในปัจจุบันการศึกษาของฟินแลนด์มีความเสมอภาค  โรงเรียนทุกแห่งของประเทศฟินแลนด์มีมาตรฐานใกล้เคียงกันทั้งสิ้น แม้ว่าจะเป็นโรงเรียนที่อยู่ในกรุงเฮลซิงกิซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์ หรือเป็นโรงเรียนชานเมืองที่ห่างไกล ทำให้ไม่ว่านักเรียนย้ายไปที่ไหนของฟินแลนด์ ก็ยังมั่นใจได้ว่าได้มาตรฐานสูงเช่นเดียวกัน

ความเสมอภาคและความเป็นธรรมในสังคม
ที่โรงเรียน Viikki ในกรุงเฮลซิงกิ เด็กนักเรียนที่มาจากครอบครัวร่ำรวยและครอบครัวชนชั้นแรงงานนั่งเรียนรวมกันในห้องเรียน
-ที่นี่ไม่มีค่าเทอม และ
-ไม่มีค่าใช้จ่ายด้านอุปกรณ์การเรียน
-รัฐจัดบริการด้านสาธารณสุขและการศึกษาฟรีให้แก่ประชาชน
-จัดที่พักอาศัยในราคาที่คนส่วนใหญ่สามารถซื้อได้
-ให้พ่อแม่ได้สิทธิ์เลี้ยงลูกหลังคลอดเป็นเวลานานเพื่อส่งเสริมให้ผู้ชายรับผิดชอบในการดูแลลูกมากขึ้น
-ให้มีบริการรับเลี้ยงเด็กเล็กในราคาที่รัฐบาลอุดหนุนหรือฟรี รวมทั้งจัดสวัสดิการสังคมที่เพียงพอให้แก่ประชาชน
-รัฐบาลให้ความสำคัญกับการศึกษามากมีสวัสดิการต่างๆให้ประชาชนตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนตลอดชีวิต รวมถึงให้ความสำคัญกับเด็กทุกคนส่งเสริมทักษะต่างๆที่เด็กๆ ถนัดและสนใจ โดยไม่ได้เน้นเด็กที่เรียนเก่งเพียงอย่างเดียว

คุณค่าของครู
ปรัชญาของระบบการศึกษาฟินแลนด์ ยังสะท้อนออกมาในห้องเรียนด้วย
ในโรงเรียนทั่วไป ครูใช้เวลาในการสอนหนังสือวันละ 4 ชั่วโมง ทำให้พวกเขาได้มีเวลาเตรียมการสอน นำความรู้ที่มีอยู่กลับมาใช้ใหม่ และมีเวลาใส่ใจเด็กนักเรียนมากขึ้น
วิชาชีพครูมีรายได้ดีพอสมควร และเงื่อนไขการทำงานก็ดีด้วย
ด้วยเหตุนี้ ครุศาสตร์ จึงกลายเป็นหนึ่งในอาชีพที่เยาวชนในฟินแลนด์นิยมเรียนมากที่สุดแซงหน้าการเรียนเป็นแพทย์ นักกฎหมาย และสถาปนิก
นอกจากนี้ ชั่วโมงการเรียนของโรงเรียนในฟินแลนด์ยังสั้นกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับโรงเรียนในประเทศกลุ่ม OECD อื่น ๆ หรือ ราว 670 ชั่วโมงต่อปีสำหรับโรงเรียนระดับประถมศึกษา เป็นต้น

เอียร์ยา ชัค ครูที่โรงเรียน Viikki บอกว่า
"มันเป็นเรื่องสำคัญที่เด็กจะมีเวลาได้เป็นเด็ก"
"สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณภาพ ไม่ใช่ปริมาณของเวลาที่ใช้ในห้องเรียน" เธอกล่าว

เด็กนักเรียนที่ฟินแลนด์ยังมีการบ้านน้อยกว่าด้วย
ข้อมูลจาก OECD ระบุว่า เด็กอายุ 15 ปีในฟินแลนด์ใช้เวลาทำการบ้านเฉลี่ยสัปดาห์ละ 2.8 ชั่วโมงขณะที่เวลาทำการบ้านโดยเฉลี่ยของนักเรียนในกลุ่ม OECD คือ 4.9 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

"เด็กได้เรียนสิ่งที่พวกเขาต้องเรียนรู้ในชั้นเรียน พวกเขามีเวลามากขึ้นในการอยู่กับเพื่อนและทำอย่างอื่นที่พวกเขาชอบ ซึ่งก็สำคัญเช่นกัน"
มาร์ตตี เมรี ครูอีกคนกล่าว

บรรยากาศที่ผ่อนคลาย
บรรยากาศที่โรงเรียน Viikki เต็มไปด้วยความสงบและไม่เป็นทางการ ที่นี่ไม่มีเครื่องแบบนักเรียน เด็ก ๆ เดินไปไหนมาไหนโดยสวมถุงเท้า ตามธรรมเนียมของประเทศในแถบสแกนดิเนเวียที่เด็ก ๆ จะไม่สวมรองเท้าในห้องเรียน
นอกจากนี้ เด็ก ๆ ในฟินแลนด์ยังไม่ต้องวิตกกังวลกับการสอบด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่มีในการศึกษาช่วง 5 ปีแรกของเด็ก และในปีต่อจากนั้น นักเรียนจะถูกประเมินจากความสามารถในชั้นเรียน

หลักการของระบบการศึกษานี้คือการมองว่าเด็กทุกคนมีศักยภาพในการเรียนรู้หากพวกเขาได้รับการสนับสนุนและโอกาสส่วนครูอาจารย์ต่างเชื่อว่าหน้าที่ของพวกเขาคือการช่วยนักเรียนให้เรียนรู้โดยปราศจากความกังวล และพัฒนาความสงสัยใคร่รู้ตามธรรมชาติของพวกเขา ไม่ใช่การสอบผ่าน

ข้อมูลจาก PISA ระบุว่า มีนักเรียนในฟินแลนด์เพียง 7% เท่านั้นมีความวิตกกังวลในการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ขณะที่ญี่ปุ่นซึ่งมีระบบที่เข้มงวดและมีผลการเรียนเป็นเลิศ แต่ต้องแลกมาด้วยสุขภาพจิตของเด็ก โดยตัวเลขดังกล่าวสูงถึง 52%

ขอขอบคุณ :
ข้อมูลข่าว https://www.bbc.com/thai/features-456...

ภาพ https://pixabay.com/th/

ภาพ โลโก้ https://sco.wikipedia.org/wiki/File:O...

ติดตามเราทางเพจ
https://web.facebook.com/ReadNewsEduc...


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น